ได้ไปเที่ยวจังหวัดน่านเมื่อในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่ชอบบรรยากาศที่แตกต่างจากบรรยากาศของจังหวัดที่มีแบบแผนเปลี่ยนเป็นสังคม
คอนกรีตที่จะเห็นได้ทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ
ที่น่านนี้ในตัวอำเภอเมืองจะเห็นความเป็นอยู่ที่มีกลิ่นอายที่เรียกว่าเป็น
วัฒนธรรมของคนเมืองแบบเก่าที่มองเห็นและรู้สึกได้จากรูปแบบอาคาร
และความเรียบง่าย ที่อยู่อาศัยไม่เห็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่สูงๆ
ส่วนที่เป็นรั้วหรือกำแพงจะเป็นรูปแบบไม่สูงและจะคล้ายๆ
ดูเป็นเอกลักษณะที่น่าประทับใจอีกรูปแบบหนึ่ง
และได้รู้ว่าเมืองนี้กำลังจะมีการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก(ถ้าเข้าใจหรือใช้คำ
ผิด-ขออภัยด้วยค่ะ) จะลงภาพสถานที่ที่ได้ไปชมมา แต่ไม่ครบทุกแห่งค่ะ
เพราะมีเวลาน้อยมาก
พระเสาหลักเมือง
|
ซุ้มหลังคาพระเสาหลักเมือง |
|
หอพระเสาหลักเมือง |
เสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ภายใน “วัดมิ่งเมือง” อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โดยชาวท้องถิ่นเรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่ง หรือเสามิ่งเมือง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดมิ่งเมือง
|
โบสถ์วัดพระเสาหลักเมือง |
|
พญานาคข้างซุ้มทางเข้าโบสถ์ |
ประวัติ
เสามิ่งเมืองของจังหวัดน่าน
สร้างขึ้นโดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 57
โปรดให้ฝังเสาพระหลักเมืองน่านต้นปัจจุบันนี้เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2331 ณ
สถานที่ที่ทรงเสี่ยงทาย เป็นที่อยู่ข้างวัดร้างเก่าซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก
หอคำ
(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 350
เมตร โดยผู้รู้สันนิษฐานว่าวัดร้างนี้คือ
วัดห้วยไคร้
อันมีมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย
แต่เดิมเสามิ่งเมืองมีลักษณะเป็นไม้สักทองขนาดใหญ่
เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 60 ซ.ม. สูงประมาณ 3 ม.
หัวเสาเกลาเป็นรูปดอกบัวตูม ตัวเสาฝังลงกับพื้นโดยตรงไม่มีศาลครอบ
จนกระทั่งในปี 2506 เมืองน่านได้เกิดน้ำท่วมใหญ่
แม่น้ำน่านไหลเข้าท่วมถึงเสามิ่งเมือง
ตัวเสาอายุร้อยกว่าปีที่เริ่มผุกร่อนจึงโค่นล้มลง
ต่อมาทางวัดมิ่งเมืองพร้อมด้วยประชาชนชาวน่านจึงได้ร่วมกันนำ
เสามิ่งเมืองน่านต้นเดิมที่โค่นล้มลงนั้นมาเกลาแต่งใหม่
และสลักหัวเสาเป็นพระพรหมสี่หน้า
รวมทั้งสร้างศาลทรงไทยจตุรมุขครอบเสามิ่งเมืองขึ้นเป็นครั้งแรก
ในครั้งนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์
ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีตั้งเสาหลักเมืองน่าน เมื่อวันที่ 7 มกราคม
2516
|
ภายในโบสถ์ วัดมิ่งเมือง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น